กุญแจสำคัญ ในการเดินทางรถโดยสารสาธารณะโดยเฉพาะในช่วงเทศกาลเช่นนี้ ไม่เพียงแต่พนักงานขับรถเท่านั้นที่เป็นกุญแจสำคัญ แต่รวมถึงผู้ประกอบกิจการรถโดยสารสาธารณะด้วย ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของการปฏิบัติงาน ไม่ว่าจะเป็นบทบาทในการดูแลตั้งแต่ด้านความปลอดภัยของรถ พนักงานขับรถ จนถึงผู้โดยสาร อีกหนึ่งบทบาทสำคัญที่หลาย ๆ คนอาจจะมองข้ามไป ซึ่งหากมีการบริหารจัดการได้อย่างดี จะเป็นการเสริมสร้างความปลอดภัยในการเดินทางโดยสารสาธารณะให้มากยิ่งขึ้น
บทบาทของผู้ประกอบกิจการรถโดยสารสาธารณะ
ด้านความปลอดภัยของรถ ผู้ประกอบการต้องมีการตรวจสอบมาตรฐานและความถูกต้องของตัวรถ อุปกรณ์ด้านความปลอดภัยต่าง ๆ ให้เป็นไปตามกฎหมายที่กรมขนส่งทางบกกำหนด รวมถึงการตรวจและบำรุงรักษารถรายวันให้มีความพร้อมก่อนใช้งานและให้บริการในแต่ละวัน รวมถึงการติดตั้งอุปกรณ์ด้านความปลอดภัย อย่าง GPS ในการกำกับดูแลและส่งเสริมความปลอดภัยในการเดินทางด้วยรถโดยสารสาธารณะ สำหรับการบันทึกการเดินทางของรถ รวมถึงพิกัดความเร็วของรถ ชั่วโมงการทำงาน หรือจะเป็นอุปกรณ์อย่างกล้องบันทึกภาพพนักงานขับรถ และระบบบันทึกสภาพแวดล้อมรอบตัวรถระหว่างเดินทาง
สุขภาพของพนักงาน ต้องมีการส่งเสริมและดูแลสุขภาพลูกจ้าง โดยการให้มีการตรวจสุขภาพประจำปี รวมถึงการตรวจสุขภาพความพร้อมของพนักงานขับรถก่อนทำงาน
บุคลากรที่เกี่ยวข้องเพื่อเพิ่มความปลอดภัยในการทำงานให้มากยิ่งขึ้น อย่างเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงาน (จป.) และคณะกรรมการด้านความปลอดภัยฯ (คปอ.) เพื่อสนับสนุนให้การดำเนินงานและมีการจัดการความปลอดภัยในการทำงานให้มากยิ่งขึ้น
การสอบสวนอุบัติการณ์ ที่เป็นการสอบสวนสาเหตุการเกิดอุบัติการณ์ทางถนน มีจุดประสงค์เพื่อเก็บรวบรวมข้อมูลในการเกิดอุบัติการณ์มาวิเคราะห์สาเหตุ ผลกระทบ ความเสียหาย และกำหนดมาตรการเชิงป้องกันโดยการศึกษาลักษณะการเกิดอุบัติการณ์ สถานที่เกิดเหตุ ช่วงเวลาเกิดเหตุ เป็นต้น เพื่อหาแนวทางการแก้ไขปัญหาไม่ให้เกิดเหตุซ้ำอีก

บทบาทของพนักงานขับรถโดยสารสาธารณะ
สำหรับพนักงานขับรถโดยสารสาธารณะ เพื่อให้มั่นใจว่าพนักงานขับรถโดยสารสาธารณะเป็นบุคคลที่มีความพร้อมในการขับรถมีความรู้ ทักษะ ความชํานาญ ได้รับการพัฒนาความรู้และทักษะอย่างต่อเนื่อง พนักงานขับรถทุกคนรับทราบหน้าที่และความรับผิดชอบของตนในการปฏิบัติงาน มีจิตสํานึกและทัศนคติที่ดีต่อการขับรถ มีความพร้อมด้านร่างกายและจิตใจ มีสุขภาพและสุขอนามัยที่ดีในการทํางาน และตั้งใจในการขับรถเป็นอาชีพในการขับรถแต่ละเที่ยว บริษัทจะต้องบริหารจัดการแผนการทํางานของพนักงานขับรถที่สามารถมั่นใจได้ว่าได้พนักงานขับรถได้พักผ่อนอย่างเพียงพอ ชั่วโมงการขับรถ ต่อเนื่องไม่เกินกว่าที่กฎหมายกําหนด ไม่เกิดความเมื่อยล้าขณะขับรถ ไม่มีแอลกอฮอล์ในร่างกายและ ไม่มีการใช้ยาที่มีผลต่อสมรรถนะการขับรถโดยคำนึงถึงสิ่งต่าง ๆ ดังนี้
1) มีความรู้ในเส้นทางการขับขี่
2) ตรวจเช็ครถประจำวันตามหัวข้อที่กำหนด
3) ทำความสะอาด “ก่อน” และ “หลัง” การใช้งานรถโดยสาร
4) ไม่ใช้สารเสพติด และไม่ดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ ทั้ง “ก่อน” และ “ระหว่าง” การขับรถ
5) มีจิตใจให้บริการ เช่น การช่วยยกสัมภาระให้ผู้โดยสาร
6) มีความรู้ในการปฏิบัติเมื่อเกิดสถานะการณ์ฉุกเฉิน
7) จดบันทึกข้อมูลการใช้รถโดยสาร
8) นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ก่อนการปฏิบัติงานขับรถ
9) นำรถเข้าซ่อมบำรุงรักษาตามระยะเวลา หรือ ตามระยะทางที่กำหนด
10) มีทัศนะคติที่ดีต่อการปฏิบัติตามกฎหมายจราจร
11) มีความรู้ความสามารถในการขับรถ
12) ผ่านการฝึกอบรมข้อปฏิบัติในการขับรถเมื่อเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉิน เช่น กรณีเกิดยางแตก หรือ เกิดเหตุเพิลงไหม้ในห้องโดยสาร
13) มีพฤติกรรมการขับรถที่ปลอดภัย ไม่ขับรถเร็ว หรือ ขับตามรถคันหน้าอย่างกระชั้นชิด
14) มีความรู้ที่เกี่ยวข้องกับการแก้ไขระบบเครื่องยนต์ และการดูแลรักษาเครื่องยนต์
15) ปฏิบัติตามกฎระเบียบของพนักงานขับรถโดยสาร เช่น การแต่งกาย ไม่ไว้หนวดเครา ไม่มาทำงานสาย ฯลฯ
16) มีวินัยในการปฏิบัติงาน
17) ต้องขับรถชิดขอบทาง
18) ขับรถครบ 4 ชั่วโมงต้องจอดพัก 30 นาที และต้องไม่ปฏิบัติงานเกิน 10 ชั่วโมง/วัน
อ้างอิง: แนวปฏิบัติงานเพื่อความปลอดภัยและอาชีวอนามัย สำหรับรถโดยสารสาธารณะ (Guidelines for Managing Occupational Safety and Health of Public Transportation)
